การเลี้ยงไหม
วงจรของชีวิตัวไหมจะเริ่มต้นจากไข่ ฟักเป็นตัวหนอนไหมในระยะเป็นตัวหนอนไหมจะลอกคราบ 4 ครั้ง พอตัวหนอนไหมแก่เข้าก็จะชักใยทำรังหุ้มตัวเองแล้วตัวไหมก็จะลอกคราบเป็นดักแด้อยู่ในรังนั้นพอครบอายุดักแด้ก็จะกลายเป็นผีเสื้อเจาะรังออกมาผสมพันธุ์กันพรัอมทั้งวางไข่ฟักเป็นตัวหนอนต่อไป วนเวียนกันอยู่อย่างนี้เรื่อย ๆ ไปไม่รู้จักจบอายุของไข่ของตัวไหมดังนี้
อยู่ในไข่ 10 วัน
เป็นตัวหนอน 22 - 26 วัน
เป็นดักแด้ 8 - 10 วัน
เป็นผีเสื้อ 2 – 3 วัน
รวม 42 - 49 วัน
เป็นตัวหนอน 22 - 26 วัน
เป็นดักแด้ 8 - 10 วัน
เป็นผีเสื้อ 2 – 3 วัน
รวม 42 - 49 วัน
ตัวหนอนไหมและวิธีการเลี้ยง
เมื่อไข่มีอายุได้ 8 วัน ก็จะมีจุดดำ ๆ ที่ริมไข่ทุกใบ วันที่ 9 สีของฟองไข่จะเปลี่ยนเป็นสีเทาแก่แสดงว่าไข่นั้นจะฟักเป็นตัวแล้วและคืนวันที่ 9 เวลาเช้ามืดไข่ก็จะตั้งต้นฟักบ้างแล้วพอเที่ยงวันที่ 10 ก็จะฟักเป็นตัวหมด พอเย็นวันที่ 9 ต้องหากระดาษห่อไข่ไหมไว้เพราะเช้ามืดไข่จะฟักออกเป็นตัวและฟักไปเรื่อย ๆ จนถึงเที่ยงก็จะหมด
เมื่อตัวไหมฟักออกหมดแล้วต้องแก้กระดาษที่ห่อนั้นออกแล้วหั่นใบหม่อนอ่อนๆ ให้กินโดยโรยลงไปบนตัวไหมพอควรทีแรกตัวไหมฟักมีอายุได้ 4 - 5 วันก็จะนอนครั้งหนึ่งเมื่อสังเกตดูว่าเห็นตัวไหมเริ่มนอนแล้วก็อาจจะถ่ายมูลไหมและเศษไหมหม่อนแห้งในกระด้งใหม่เสียก่อนที่ตัวไหมจะตื่นนอน เมื่อตัวไหมเป็นเช่นนี้เรียกว่า "นอนหนึ่ง" ตัวไหมจะมีอาการเช่นนี้อยู่วันหนึ่งหรือสองวันจึงจะฟื้นแข็งแรงเมื่อตัวไหมฟื้นจากนอนหนึ่งแล้วผู้เลี้ยงก็จะเลี้ยงโดยหั่นใบหม่อนให้กินอย่างเดิม พอได้ 7 วันตัวไหมก็จะสงบนิ่งไม่กินใบหม่อนและมีอาการเหมือนกันกับครั้งแรก คือ มีอาการสงบนิ่งและจะมีอาการเช่นนั้นอีกวันหนึ่งหรือสองวันเรียกว่า "นอนสอง" เมื่อฟื้นจากนอนสองคราวนี้ไม่ต้องหั่นใบหม่อนให้กินเพราะตัวไหมเขื่องขึ้นแล้ว ต่อไปอีก 7 วันตัวไหมจะมีอาการสงบนิ่งเหมือนที่เคยคราวนี้เรียกว่า "นอนสาม" เมื่อฟื้นจากนอนสามต่อไปอีก 7 วันตัวไหมก็จะมีอาการดังกล่าวอีกเรียกว่า "นอนสี่" หลังจากนอนสี่แล้วก็ถึงนอนห้ารอหนอนสุก (ตัวไหม) ที่แก่เต็มที่แล้วเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ไหมสุก" ซึ่งตัวไหมจะทำฝักและทำรัง
เมื่อไข่มีอายุได้ 8 วัน ก็จะมีจุดดำ ๆ ที่ริมไข่ทุกใบ วันที่ 9 สีของฟองไข่จะเปลี่ยนเป็นสีเทาแก่แสดงว่าไข่นั้นจะฟักเป็นตัวแล้วและคืนวันที่ 9 เวลาเช้ามืดไข่ก็จะตั้งต้นฟักบ้างแล้วพอเที่ยงวันที่ 10 ก็จะฟักเป็นตัวหมด พอเย็นวันที่ 9 ต้องหากระดาษห่อไข่ไหมไว้เพราะเช้ามืดไข่จะฟักออกเป็นตัวและฟักไปเรื่อย ๆ จนถึงเที่ยงก็จะหมด
เมื่อตัวไหมฟักออกหมดแล้วต้องแก้กระดาษที่ห่อนั้นออกแล้วหั่นใบหม่อนอ่อนๆ ให้กินโดยโรยลงไปบนตัวไหมพอควรทีแรกตัวไหมฟักมีอายุได้ 4 - 5 วันก็จะนอนครั้งหนึ่งเมื่อสังเกตดูว่าเห็นตัวไหมเริ่มนอนแล้วก็อาจจะถ่ายมูลไหมและเศษไหมหม่อนแห้งในกระด้งใหม่เสียก่อนที่ตัวไหมจะตื่นนอน เมื่อตัวไหมเป็นเช่นนี้เรียกว่า "นอนหนึ่ง" ตัวไหมจะมีอาการเช่นนี้อยู่วันหนึ่งหรือสองวันจึงจะฟื้นแข็งแรงเมื่อตัวไหมฟื้นจากนอนหนึ่งแล้วผู้เลี้ยงก็จะเลี้ยงโดยหั่นใบหม่อนให้กินอย่างเดิม พอได้ 7 วันตัวไหมก็จะสงบนิ่งไม่กินใบหม่อนและมีอาการเหมือนกันกับครั้งแรก คือ มีอาการสงบนิ่งและจะมีอาการเช่นนั้นอีกวันหนึ่งหรือสองวันเรียกว่า "นอนสอง" เมื่อฟื้นจากนอนสองคราวนี้ไม่ต้องหั่นใบหม่อนให้กินเพราะตัวไหมเขื่องขึ้นแล้ว ต่อไปอีก 7 วันตัวไหมจะมีอาการสงบนิ่งเหมือนที่เคยคราวนี้เรียกว่า "นอนสาม" เมื่อฟื้นจากนอนสามต่อไปอีก 7 วันตัวไหมก็จะมีอาการดังกล่าวอีกเรียกว่า "นอนสี่" หลังจากนอนสี่แล้วก็ถึงนอนห้ารอหนอนสุก (ตัวไหม) ที่แก่เต็มที่แล้วเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ไหมสุก" ซึ่งตัวไหมจะทำฝักและทำรัง
ไหมทำฝักและทำรังเมื่อคัดตัวไหมขั้นนอนห้าประมาณ 5 - 7 วัน ตัวไหมก็จะเริ่มแก่ (เริ่มสุก) ก่อนที่ตัวไหมเป็นฝักและทำรังต้องหาจ่อไว้ให้พอดีกับตัวไหมหลังจากนั้นผู้เลี้ยงต้องหมั่นตรวจดูว่า ตัวไหมแก่คือ ทำฝักทำรังลักษณะที่ไหมทำการฝักทำรังจะสังเกตได้โดยดูตัวไหมที่มีสีเหลืองไปทั้งตัวแล้วรีบคัดตัวไหมตัวนั้นไป ใส่ไว้ในจ่อเลี้ยงคราวหนึ่งต้องคอยคัดไปใส่จ่อเรื่อย ๆ ราว 4 - 5 วัน จนหมดตัวแก่นั้นในขณะที่คัดตัวไหมไปใส่จ่อผู้เลี้ยงต้องไม่ให้อาหารกับตัวไหม เลยเพื่อจะได้ให้ตัวไหมรีบทำฝักและทำรัง เมื่อตัวไหมเข้าไปอยู่ในฝักราว 3 วันตัวไหมก็จะยุบตัวเล็กลงเรียกว่า "ตัวดักแด้" เลี้ยงจับฝักเขย่าดูปรากฏว่ามีเสียงดังขลุก ๆ อยู่ภายในแล้วแสดงว่าใช้ได้ จึงนำเอาไปต้มแล้วสาวต่อไป
ถ้ารังใดจะเก็บเอาไว้ทำพันธุ์ ก็เก็บเอาไว้นานประมาณ 7 วันตัวดักแด้ก็จะมีปีกเรียกว่า "ตัวบี้"
ถ้ารังใดจะเก็บเอาไว้ทำพันธุ์ ก็เก็บเอาไว้นานประมาณ 7 วันตัวดักแด้ก็จะมีปีกเรียกว่า "ตัวบี้"
หลักสำคัญในการเลี้ยงไหม
1. สถานที่เลี้ยงไหมห้ามสูบบุหรี่ และยาสูบเป็นอันขาด เพราะควันจะเป็นอันตรายต่อตัวไหม
2. สถานที่เลี้ยงไหมควรอยู่ห่างจากครัวไฟเพราะควันไฟและกลิ่นต่าง ๆ เป็นอันตรายต่อ ตัวไหมและอย่ายากำจัดแมลงไม่ว่ายาชนิดใดพ่นใส่ในสถานที่เลี้ยงไหมเป็นอันขาด
3. ใบหม่อนที่ใช้เลี้ยงไหมจะต้องสะอาด
4. การให้อาหารครั้งหนึ่ง ๆ ต้องไม่น้อยหรือมากจนเกินไปควรกะให้พอดี
5. ต้องถ่ายมูลไหมก่อนนอนทุกครั้ง ส่วนไหมที่ตื่นครั้งที่สี่ต้องถ่ายมูลไหมอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
6. หลังจากการเลี้ยงไหมครั้งหนึ่ง ๆ กระด้ง ผ้าคลุม และเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ควรล้างด้วยน้ำผสมยาฆ่าเชื้อโรคให้สะอาดแล้วตากแดดให้แห้งสนิทอย่างใช้ยากำจัดแมลงเป็นอันขาด
7. โรงเรือนสำหรับเลี้ยงไหมโดยเฉพาะนั้น ต้องปิดให้มิดแล้วรมด้วยควันกำมะถันจึงเปิดทิ้งไว้ประมาณ 3 - 4 วัน ก่อนที่จะเลี้ยงไหมต่อไป
http://silkker.blogspot.com/
http://producker.blogspot.com/
http://classama.blogspot.com/